ถ้าต้องการการใช้งานเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่ 096-520-7008 หรือ support@phalconhost.com
ลองจินตนาการดูว่า หากเกิดเหตุผิดพลาดอะไรขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดๆ (สาเหตุจากผู้ให้บริการ หรือ ผู้ใช้บริการเองก็ตาม)
เช่น หากลูกค้ามีการลบไฟล์บางอย่างออกโดยไม่ตั้งใจ หรือ รันคำสั่งบางอย่างแล้วทำให้ข้อมูลในระบบฐานข้อมูลพัง โดยไม่ตั้งใจ จะมีวิธีกู้คืนระบบให้กลับมาทำงานและเร็วที่สุดได้อย่างไร
วิธีเดียวที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ คือ การนำข้อมูลที่สำรองไว้ล่าสุดมาใช้งาน แต่การสำรองข้อมูลของผู้ให้บริการจะมีการสำรองข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่น
สำรองข้อมูลรายวัน (Daily Backup), สำรองข้อมูลรายสัปดาห์ (Weekly Backup), สำรองรายเดือน (Monthly Backup) หรือไม่มีการสำรองข้อมูลเลย
ถ้าสำรองข้อมูลไว้แบบรายวัน เมื่อเกิดปัญหา อย่างมากเราก็แค่ย้อนหลังข้อมูลไปไม่กี่ชั่วโมง หรือมากที่สุดคือ 1 วัน, แต่ถ้าสำรองข้อมูลไว้แบบรายสัปดาห์หรือรายเดือน ลองคิดดูว่าข้อมูลเราจะต้องย้อนหลังไป 7-30 วัน ซึ่งเป็นสิ่งที่เสียหายอย่างมาก
เมื่อรันเว็บไซด์แล้วไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ในสายตาของผู้ใช้งาน (End-user) ก็คือระบบล่ม เข้าใช้งานไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาที่อะไร ดังนั้นเราลองมาดูว่าระบบล่มเกิดจากอะไรได้บ้าง
ผู้ให้บริการบางรายแจ้งว่าใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง เร็ว แรง แต่ทำไมมีปัญหาบ่อยจัง บางทีอาจจะไม่ได้มีปัญหาที่เครื่องเซิฟเวอร์ แต่เป็นปัญหาที่วิธีการบริหารจัดการของผู้ให้บริการนั้นๆ เพราะผู้ให้บริการบางรายรับลูกค้าทุกประเภท แล้วจับมารวมอยู่ด้วยกัน ทำให้เกิดปัญหากระทบกัน เช่น นำลูกค้าที่ใช้งานทรัพยากรเยอะๆ มารวมกับลูกค้าปกติ ทำให้ระบบ CPU, RAM, SSD, Network เต็ม ใช้งานหนัก และบางครั้งรับลูกค้าที่ต้องห้ามเข้ามาด้วย เช่น ลูกค้าที่นำไปรัน Proxy, Camfrog, Game, Download Files, VPN, Streamming เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้ จะทำให้บริการไม่เสถียรได้ง่ายๆ หากไม่บริหารจัดการให้ดี
เกิดได้หลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับกรณี เช่น
โดยปกติแล้ว VPS ที่ใช้ Harddisk SATA3 ปกติจะมีความเร็วในการอ่าน/เขียน ประมาณ 100 MBps แต่ถ้าเป็น VPS ที่ใช้ SSD จะมีความเร็วในการอ่าน/เขียน ประมาณ 500 Mbps - 2,000 Mbps (SSD เร็วกว่า HDD ประมาณ 5-20 เท่า) ดังนั้นในยุคปัจจุบัน ผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะหันมาให้บริการ ระบบ VPS แบบ SSD เกือบทั้งหมดแล้ว เพราะความเร็วที่แรงกว่า HDD มากๆ เมื่อลูกค้านำไปใช้งานก็พอใจ หน้าเว็บไซด์โหลดเร็วขึ้น 3-5 เท่า ลูกค้าไม่อยากกลับไปใช้ VPS HDD อีกเลย
โดยปกติแล้ว บริการเช่า VPS จะมีสิ่งที่คล้ายๆกันคือ คุณภาพของสินค้า แต่จะแตกต่างกันที่บริการหลังการขาย เช่น หากผู้ให้บริการใช้สเปก Server คล้ายๆกัน อุปกรณ์เกรด Enterprise เหมือนกัน การตั้งค่าต่างๆเหมือนๆกัน ก็จะทำให้สินค้ามีคุณภาพใกล้เคียงกัน
แต่การบริการหลังการขายนั้น จะแตกต่างกัน เพราะการบริการคือ ความเอาใจใส่ลูกค้า การอำนวยความสะดวกลูกค้า การแก้ไขปัญหา การแนะนำให้คำปรึกษา
ดังนั้นเราควรจะพิจารณาคุณภาพสินค้าว่าใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงหรือไม่ ระบบสำรองข้อมูลปลอดภัยเพียงใด จากนั้นพิจารณาบริการหลังการขาย ประสบการณ์ในการให้บริการ บริษัทน่าเชื่อถือ รวมถึงราคาที่คุ้มค่า กับบริการที่ได้รับเป็นสำคัญ
แน่นอนว่า การได้รับบริการจากผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานย่อมจะดีกว่าผู้ให้บริการมือใหม่ เพราะผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์จะเจอปัญหา ต่างๆ หลากหลาย และมีวิธีรับมือกับปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดี สามารถแนะนำวิธีป้องกันให้ลูกค้าก่อนที่จะเกิดปัญหาต่างๆได้
PhalconHost เริ่มดำเนินการในรูปแบบบุคคลธรรมดามา 2 ปี (เริ่มปี 2557) และจดทะเบียนบริษัท ดำเนินงานในรูปแบบนิติบุคคล 7 ปี (จดทะเบียนนิติบุคคลปี 2559) ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ประสบการณ์ในการดำเนินงานให้บริการ 9 ปี ให้บริการลูกค้ามากกว่า 5,000+ ราย
ไม่มี, ราคาที่แสดงหน้าเว็บไซด์เป็นราคา รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว และไม่มีคิดค่าติดตั้ง/บริการใดๆเพิ่มเติมทั้งสิ้น. แม้ว่าลูกค้าจะให้เราติดตั้งใหม่ แก้ไข ตั้งค่าในภายหลัง ก็จะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติม
เมื่อลูกค้าซื้อ package โปรโมชั่นในราคาเท่าใด เมื่อครบกำหนดต่ออายุบริการ ก็จะได้รับราคาโปรโมชั่นนี้ตลอดไปเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ซื้อ package RAM 2GB 5,500 บาท เมื่อครบกำหนดต่ออายุบริการปีต่อไป ก็จ่ายราคาโปรโมชั่น 5,500 บาท อย่างนี้ตลอดไป
ได้, ลูกค้าสามารถอัพเกรดเป็น package ที่สูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องติดตั้งอะไรใหม่เพิ่มเติม สามารถจ่ายเงินได้ 2 แบบคือ 1. จ่ายเฉพาะส่วนต่าง (นับวันหมดอายุเหมือนเดิม) 2. จ่ายเต็มจำนวน (นับวันหมดอายุให้ใหม่) ขึ้นลูกค้าลูกค้าเลือก ว่าแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน
หากลูกค้าไม่สามารถใช้งานบริการของเราได้ หรือไม่พอใจในคุณภาพการบริการของเรา ภายใน 7 วัน เรายินดีคืนเงินให้ลูกค้าเต็มจำนวน โดยไม่มีเงื่อนไข
ทำได้ (จะมีคิดค่าธรรมเนียมตาม rate ของ PayPal) โดยลูกค้าสามารถชำระค่าบริการผ่านระบบ PayPal ได้ ดูรายละเอียดที่หน้านี้ คลิกที่นี่...
ได้, ลูกค้าสามารถแจ้งให้ฝ่ายบัญชีเราออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงินให้ได้ตามต้องการ โดยดูรายละเอียดตามหน้าเว็บไซด์นี้ คลิกที่นี่...
ได้, กรณีที่ลูกค้าเป็นนิติบุคคล และมียอดใช้บริการตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป สามารถทำหักภาษี ณ ที่จ่าย (3%) ได้ โดยดูรายละเอียดตามหน้าเว็บไซด์นี้ คลิกที่นี่...